กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมเปิดโรงเรียน“PUBLIC SCHOOL”ใน 76 จังหวัดและกรุงเทพฯ
ฝากข่าว ร้องเรียน ร้องทุกข์ ประชาสัมพันธ์ข่าว ติดต่อ ข่าวการศึกษา ครูประถม.คอม
ชุมชนไลน์กลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยน ความรู้ วpa ข่าวการศึกษา ปรึกษาข้อปัญหา อาชีพครู
ชุมชนครูประถมแห่งประเทศไทย
Public School ศธ.เตรียมเปิดโรงเรียนใน 76 จังหวัดและกรุงเทพฯ
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เตรียมเปิดโรงเรียน “Public School” ใน 76 จังหวัดและกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ มีความเป็นอิสระ มีความคล่องตัวจากกฎระเบียบต่าง ๆ ของรัฐ สามารถออกแบบหลักสูตร สรรหาครู ผู้บริหารที่ดีมาบริหารจัดการเองได้ เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย THAILAND 4.0 เริ่มต้น ปีการศึกษา 2561
วันนี้ ( 8 มีนาคม 2561) ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาในรูปแบบ Public School ครั้งที่ 1/2561 โดยมีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ.
นพ.อุดม คชินทร กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษาทุกระดับ เช่น การตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาเพื่อการปฏิรูปอุดมศึกษามีความก้าวหน้าไปมาก ส่วนการปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน หากยังพัฒนาในรูปแบบเดิมก็จะก้าวหน้าได้ยาก ประกอบกับคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย THAILAND 4.0 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มอบหมายให้มีการจัดตั้งโรงเรียนที่มีสถานะเป็นโรงเรียนของรัฐ แต่ให้นำการบริหารจัดการของเอกชนมาใช้ ในเบื้องต้นใช้ชื่อว่า “Public School” เพื่อให้โรงเรียนมีความเป็นอิสระ มีความคล่องตัวจากกฎระเบียบต่าง ๆ ของรัฐ สามารถออกแบบหลักสูตร สรรหาครูและผู้บริหารที่ดี มาบริหารจัดการเองได้
ศธ.จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาในรูปแบบ Public School เพื่อรองรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาตามนโยบาย THAILAND 4.0 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นที่ปรึกษา, โดย รมช.ศึกษาธิการ (นพ.อุดม คชินทร) เป็นประธาน, กรรมการประกอบด้วยบุคคลหลายภาคส่วน เช่น ผู้แทนจากภาคเอกชน, ผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ., เลขาธิการ ก.พ.ร. โดยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดแนวทาง ยุทธศาสตร์ และรูปแบบการขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมบริหารสถานศึกษา ในรูปแบบ Public School ตลอดจนเกณฑ์เพื่อคัดเลือกโรงเรียนจับคู่กับผู้ให้การสนับสนุนตามความสมัครใจ และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในการประชุมคณะกรรมการครั้งนี้ ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันที่จะมีโรงเรียนในรูปแบบ Public School ใน 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร พร้อมแต่งตั้ง “คณะกรรมการดำเนินงานพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษา ในรูปแบบ Public School เพื่อรองรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาตามนโยบาย THAILAND 4.0″ โดยมีนายมีชัย วีระไวทยะ เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่วางกรอบมาตรฐานกลาง เกณฑ์การคัดเลือก ตลอดจนคัดเลือกโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดกลาง นำเสนอให้คณะกรรมการชุดนี้พิจารณา เพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบโรงเรียน Public School ของ ศธ.ต่อไป
สำหรับโรงเรียน Public School จะบริหารจัดการโดยคณะกรรมการสถานศึกษา ประกอบด้วยตัวแทนจาก 4 ฝ่าย ได้แก่ ภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัย ไม่เฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีคณะครุศาสตร์เท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้คณะอื่น ๆ เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย
นอกจากนี้ คณะกรรมการสถานศึกษายังมีอำนาจในการคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียนหรือเปลี่ยนแปลงได้หากเห็นว่าไม่เหมาะสม โดยสามารถสรรหาผู้มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์จากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนอาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ มาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน และในส่วนของครูก็เช่นกัน คณะกรรมการสถานศึกษาสามารถคัดเลือกครูได้ ทั้งที่จากข้าราชการครู และการจ้างผู้มีความรู้ในสาขาวิชาที่ขาดแคลนหรือต้องการ (ครูอัตราจ้าง) โดยกำหนดเงินเดือนได้เอง และสามารถจัดสรรเงินพิเศษเพิ่มเติม (ท็อปอัพ) แก่ครูที่เป็นข้าราชการด้วย
ทั้งนี้ โรงเรียนในรูปแบบ Public School จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 ในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบขยายไปยังโรงเรียนอื่น ๆ ต่อไป ส่วนข้อคำถามว่าจะซ้ำซ้อนกับการพัฒนาโรงเรียนในกำกับของรัฐหรือโรงเรียนนิติบุคคล ของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินการหรือไม่นั้น ถือว่าไม่ซ้ำซ้อน เพราะโรงเรียนในกำกับของรัฐต้องรอการแก้ไขกฎหมายอีกหลายฉบับ ส่วนโรงเรียนในรูปแบบ Public School สามารถทำได้ทันทีภายกรอบกฎหมายที่มีอยู่ ทั้งในเรื่องของผู้อำนวยการโรงเรียนและครู ได้รับการยืนยันจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน ก.ค.ศ.) ว่า กฎหมายเปิดช่องให้สามารถทำได้ เหลือเพียงเรื่องงบประมาณเท่านั้น ที่จะต้องพิจารณาในรายละเอียดการกำหนดอัตราเงินเดือนก่อน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคตโรงเรียนทั้งสองรูปแบบจะมารวมเป็นแบบเดียวกันได้ เพราะเป็นโรงเรียนที่มีการบริหารจัดการแบบอิสระเหมือนกัน
ขอขอบคุณที่มาจาก ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
Comments are closed.