Take a fresh look at your lifestyle.

เด็กนักเรียนเอสโตเนียเรียนแบบไหนถึงทำคะแนน PISA ได้คะแนนดีที่สุด

ทำไมเด็กเอสโตเนียถึงทำข้อสอบ PISA ได้ดีกว่าชาติไหนๆ ได้เป็นอันดับหนึ่ง เข้าทำได้อย่างไร วันนี้ ครูประถม มีข้อมูลมาให้ได้อ่านกัน ว่าทำไมเด็กเอสโตเนียถึงได้เก่งกันขนาดนี้

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เผยผลการสอบวัดความรู้นักเรียนนานาชาติประจำปี 2019 (PISA) โดยให้นักเรียนอายุ 15 ปีจำนวน 600,000 คนจาก 79 ประเทศทั่วโลกทำแบบทดสอบความสามารถด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ พบว่านักเรียนจากเมืองหลักของจีน 4 แห่งได้แก่ กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เจียงซู และเจ้อเจียง ทำคะแนนรวมทั้ง 3 ด้านได้มากที่สุด ส่วนสิงคโปร์แชมป์เก่าตกไปอยู่อันดับ 2

ขณะที่นักเรียนไทยทำคะแนนได้ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยของ OECD ในทุกๆ ด้าน โดยมีทักษะการอ่านแย่ลงต่อเนื่อง ส่วนด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์คงที่

แต่ที่น่าสนใจคือในขณะที่ประเทศในกลุ่ม OECD อาทิ แคนาดา ฟินแลนด ไอร์แลนด์ มีค่าใช้จ่ายในการศึกษาของนักเรียนต่อคนเพิ่มขึ้นกว่า 15% ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ประเทศเอสโตเนียที่ได้คะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ทั้งๆ ที่ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาลดลง 30% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD

เอสโตเนียให้ความสำคัญกับคุณภาพการเรียนรู้ในระดับอนุบาลเป็นอย่างแรก เด็กๆ ที่นั่นเข้าเรียนชั้นอนุบาลกันตั้งแต่อายุ 3 ขวบ หรืออาจจะอายุน้อยกว่านั้น โดยในชั้นนี้นักเรียนจะได้รับการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับประถม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคม การแสดงความกล้าหาญและมั่นใจในการยกมือถามสิ่งที่สงสัย การรู้จักตั้งคำถาม โดยเน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นที่มีครูเป็นส่วนสำคัญ

นี่คือวิธีการที่เอสโตเนียใช้ในการบ่มเพาะความรู้ให้กับเยาวชน เพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมทั้งด้านอารมณ์และร่างกายในการเรียนรู้ให้มากที่สุด

ผู้ปกครองต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับลูกวัยอนุบาลราว 80 ยูโร หรือราว 2,683 บาท ต่อเดือนต่อคน แต่หลังจากนั้นทุกอย่างฟรี ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน อาหารกลางวัน หรือรถรับส่ง โดยมีการศึกษาของฟินแลนด์เป็นต้นแบบ

นอกจากนี้ การขยับชั้นจากอนุบาลไปยังชั้นประถมศึกษาก็ไม่มีการให้คะแนนเพื่อแบ่งระดับของเด็กนักเรียน แต่ทุกคนจะได้รับการ์ดแสดงความพร้อมระบุทักษะความสามารถ พัฒนาการ และสิ่งที่เด็กๆ ต้องทำเพิ่มเติม ซึ่งผิดกับระบบการศึกษาของไทยที่สอบวัดผลกันอย่างเอาเป็นเอาตายตั้งประชั้นประถม

เอสโตเนียยังให้ความสำคัญกับครูผู้สอน โดยให้อิสระในการออกแบบการเรียนการสอนเพื่อให้เหมาะสมกับลูกศิษย์ของตัวเอง แต่ก็ยังอยู่บนพื้นฐานของหลักสูตรการศึกษาของชาติ รานโด้ กูสติก อาจารย์ใหญ่โรงเรียน Jakob Westholmi Gumnaasium ในกรุงทาลลินน์ เผยว่า “ผมคิดว่าครูคือเหตุผลหลักที่ทำให้นักเรียนของเราได้คะแนนดี เนื่องจากครูมีอิสระในการสอน และตัวนักเรียนเองก็พร้อมจะเรียนรู้”

อย่างไรก็ดี ใช่ว่าการศึกษาของเอสโตเนียจะไร้ปัญหา ปัจจุบันครูของเอสโตเนียหลายคนใกล้จะเกษียณอายุราชการแล้ว และแม้รัฐบาลจะพยายามผลักดันในการสรรหาบุคลากร ทว่าก็ยังไม่เพียงพอ

สำหรับระบบที่ให้ความสำคัญกับครูผู้สอนอย่างมาก การรักษาความสำเร็จของระบบการศึกษาถือเป็นความท้าทายของรัฐบาลเอสโตเนีย

ที่มา: posttoday

นอกจากนี้คุณยังอาจต้องการ

ความเห็นถูกปิด

QR Code Generator | สร้างรหัส QR ของคุณได้ฟรี - สร้าง QR Code ออนไลน์อย่างง่ายและฟรี