กพฐ.ชงรื้อระบบสอบครู ดึงก.ค.ศ.จัดสอบเหมือนก.พ. เร่งสรุปผลเด็กสอบผ่านครูผู้ช่วยน้อย
ฝากข่าว ร้องเรียน ร้องทุกข์ ประชาสัมพันธ์ข่าว ติดต่อ ข่าวการศึกษา ครูประถม.คอม
ชุมชนไลน์กลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยน ความรู้ วpa ข่าวการศึกษา ปรึกษาข้อปัญหา อาชีพครู
ชุมชนครูประถมแห่งประเทศไทย
วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 “อัมพร” ชงรื้อระบบสอบครู ดึง สำนักงานก.ค.ศ. หน่วยงานกลางจัดสอบ เหมือน ก.พ. เร่งสรุปผลเด็กสอบผ่านครูผู้ช่วยน้อย ที่ สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ทั่วประเทศ โดยมีผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมกว่า 500 คน ว่า
การประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการให้ผู้บริหารเขตพื้นที่ฯ ได้มาดูระบบบริหารจัดการ การจัดทำแหล่งเรียนรู้ของสวนนงนุช ว่ามีวิธีคิด และวิธีปฏิบัติอย่างไร เพื่อนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตัวเอง รวมถึงอยากให้หาวิธีเปิดโอกาสให้นักเรียน โดยเฉพาะกลุ่มที่ด้อยโอกาสได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ เพื่อเปิดวิสัยทัศน์
นอกจากนี้จะเป็นการติดตามการดำเนินการ โดยเฉพาะระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 สพฐ. ได้ประกาศให้เดือนมิถุนายน เป็นเดือนแห่งการเยี่ยมบ้านนักเรียน ให้ครูและโรงเรียนเข้ามาดูแลช่วยเหลือนักเรียน ทั้งด้านอารมณ์ สังคม สุขภาพร่างกาย เพื่อให้เด็กมีต้นทุนที่พร้อมในการเรียนรู้ โดยเฉพาะหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นมากมาย
นายอัมพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อนักเรียนมีความพร้อมแล้ว สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การเตรียมครูผู้สอนให้พร้อม ซึ่งทางเขตพื้นที่ฯ จะต้องวางแผนการบริหารจัดการอัตรากำลังทั้งในเรื่องของการสรรหา บรรจุแต่งตั้งครูและผู้บริหารสถานศึกษา รวมถึงการบริหารจัดการบุคลากรภายในโรงเรียน ที่บางแห่งจำนวนเด็กลดลง แต่อัตราครูยังมีอยู่เท่าเดิม ก็ต้องไปดูว่า จะสามารถเกลี่ยอัตราในส่วนที่เกิน ไปในตำแหน่งใดได้บ้าง ตรงนี้เป็นเรื่องการบริหารจัดการคน
รวมถึงเรื่องบริหารจัดการงบประมาณ ซึ่งจะต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้ทันภายใน 3 เดือนก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2566 และประการสุดท้าย เป็นเรื่องวิชาการ ที่ผ่านมา มีการพูดคุยเรื่อง การเรียนรู้ในรูปแบบแอคทีฟเลินนิ่ง ในช่วง 1-2 ปีหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พูดถึงปัญหา Learning loss หรือภาวะการเรียนรู้ถดถอย พูดถึงการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอซีที เข้ามาจัดการการเรียนรู้ ดังนั้นสุดท้ายแล้ว จะต้องมาสรุปว่า วิธีการเติมเต็มความรู้ให้กับเด็กนั้น ควรมีกี่วิธี และแต่ละกลุ่มจะมีวิธีการเติมเต็มอย่างไร โดยมีเป้าหมายหลักคือ คุณภาพผู้เรียน
“ส่วนเรื่องการสอบครูผู้ช่วย ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า มีครูสอบผ่านได้น้อยนั้น อยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้มีผู้สอบไม่ผ่าน จำนวนมาก เพื่อดูว่า มหาวิทยาลัยฝ่ายผลิตเองจะต้องปรับระบบการเรียนการสอนอย่างไร รวมถึงจะต้องส่งข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไปพิจารณาด้วยว่า ควรจะต้องปรับหลักเกณฑ์ การสอบแข่งขันในส่วนใด เพื่อให้ผู้เข้าสอบสามารถสอบบรรจุได้มากขึ้น
วันนี้หลายฝ่ายยังสับสน แม้แต่ ก.ค.ศ. เองก็ออกมาระบุว่า สพฐ. ไม่อยากให้ส่วนกลางออกข้อสอบ ซึ่งความจริงไม่ใช่ และหากเป็นไปได้ ในอนาคต ผมอยากให้ สำนักงานก.ค.ศ. เป็นหน่วยงานกลางดำเนินการจัดสอบ ภาค ก และภาค ข ปีละ 2 ครั้ง คล้ายกับการสอบคัดเลือกข้าราชการของ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
รวมถึงควรจะต้องมีคลังข้อสอบ ที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาร่วมกันออก อย่างมีมาตรฐาน หากหน่วยงานใดจะจัดสอบ ก็สุ่มเลือกข้อสอบและจัดสอบโดยหน่วยงานกลาง และถ้าเขตพื้นที่ฯใดมีอัตราว่าง ก็นำคะแนนไปยื่นสมัคร เพื่อสอบสัมภาษณ์ ภาค ค ได้ทันที ตรงนี้จะทำให้การจัดสอบมีความโปร่งใส เป็นธรรมสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งระบบ
ขณะเดียวกันหากมีบัญชีที่สอบไว้เหมือน ก.พ. ก็ไม่ต้องกังวล เรื่องปัญหาการโย้กย้าย เพราะครูสามารถเลือกโรงเรียนด้วยความสมัครใจ ไม่เหมือนกับปัจจุบันที่ไม่สามารถควบคุมเรื่องการโยกย้ายได้ ปัญหาทั้งหมด
ผมไม่อยากให้เป็นการแก้แบบย้อนกลับไปกลับมา อยากให้ถอดบทเรียนและแก้ไขไปข้างหน้า เพราะการให้ส่วนกลางจัดสอบและออกข้อสอบก็เคยดำเนินการมาแล้ว โดย สพฐ. ก็จ้างมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.) ออกข้อสอบ ตอนนั้นก็บอกว่า ไม่ดี ไม่กระจายอำนาจ แต่พอปรับมา กระจายอำนาจให้เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการ ก็กลับอยากให้ส่วนกลางจัดสอบอีก
ซึ่งในมุมมองของผม เห็นว่าการกระจายอำนาจเป็นสิ่งที่ดี แต่มหาวิทยาลัยต้องไปดูเรื่องการออกข้อสอบ ให้สามารถคัดเลือกคนมาเป็นครูได้อย่างเหมาะสม จากนี้ต้องดูว่า ต่อไปจะทำอย่างไรให้ดีกว่าเดิม คุ้มค่ากับงบประมาณ รวมถึงสามารถบรรจุแต่งตั้งครูได้ทันก่อนเปิดภาคเรียน” นายอัมพร กล่าว
เลขาธิการกพฐ. กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้ตนได้มอบเป็นข้อเสนอกับที่ประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ แล้ว ส่วนแนวทางแก้ปัญหา โรงเรียนที่ยังมีครูไม่ครบ เพราะมีผู้สอบผ่านได้น้อยนั้น เบื้องต้นจะใช้อัตรา จากการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว16)
กรณีที่มีความจำเป็น หรือมีเหตุพิเศษ สังกัด สพฐ.ซึ่งจะเปิดรับสมัครวันที่ 21-27 กรกฎาคม สอบข้อเขียนภาค ก ความรอบรู้และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู และสอบภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 19 สิงหาคม สอบสัมภาษณ์ วันที่ 20 สิงหาคม และประกาศผลสอบภายในวันที่ 24 สิงหาคม มาชดเชยอัตรากำลังที่ขาดก่อน
หากยังไม่เพียงพอ จะให้มีการขอใช้บัญชีข้ามเขต ในพื้นที่ที่มีการสอบขึ้นบัญชีไว้เกินกว่าอัตราที่เปิดรับ อาทิ พื้นที่ที่จัดสอบโดยมสด. ซึ่งมีผู้สอบผ่านได้มาก หรือหากขอใช้บัญชีแล้วยังวิกฤตอยู่ ก็ค่อยมาดูว่า จะเป็นต้องจัดสอบอีกรอบหรือไม่
ทั้งหมดนี้ต้องหาข้อสรุปหลังจากมีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการก.ค.ศ. และมหาวิทยาลัยฝ่ายผลิตร่วมกันตัดสินใจ
ที่มา khaosod
Comments are closed.