สพฐ.ออกมาตรการโควิด-19 รับมือเปิดเทอม 2568 เข้ม 7 ขั้นตอน สั่งโรงเรียนทั่วประเทศยึดแผนเผชิญเหตุจริงจัง

-
กลุ่มไลน์ข่าวการศึกษา
กลุ่มไลน์ข่าวการศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยเลขาธิการ กพฐ. ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ เพื่อย้ำเตือนการปฏิบัติมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดในช่วงเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2568 นี้
ภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในสถานศึกษา ซึ่งมีความเสี่ยงสูงจากการรวมตัวของนักเรียนจำนวนมาก การกำกับควบคุมที่เข้มแข็งจึงเป็นสิ่งจำเป็น
เน้นแผนเผชิญเหตุ ลดผลกระทบต่อการเรียนรู้
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ เปิดเผยว่า สพฐ.ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้โรงเรียนทุกแห่ง
ปฏิบัติตาม “แผนเผชิญเหตุ” อย่างเคร่งครัด รวดเร็ว และแม่นยำ เพื่อรับมือหากพบผู้ติดเชื้อในสถานศึกษา โดยยังเน้นย้ำให้ยึดหลัก “ความปลอดภัยควบคู่การเรียนรู้” เป็นสำคัญ
“แม้จะพบผู้ติดเชื้อในโรงเรียน ก็ไม่จำเป็นต้องปิดการเรียนการสอนทั้งหมด หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามแผนเผชิญเหตุ”
— ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา กล่าว
7 มาตรการหลักที่ทุกโรงเรียนต้องปฏิบัติทันที
หนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 04001/ว3497 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ได้ระบุรายละเอียดมาตรการ 7 ขั้นตอนที่โรงเรียนต้องดำเนินการ ดังนี้:
-
ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับโควิด-19 ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ได้แก่ นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และผู้มาติดต่อราชการ
-
รณรงค์สวมหน้ากากอนามัย และล้างมืออย่างถูกวิธีในสถานศึกษา
-
ทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ร่วมใช้ อย่างสม่ำเสมอ
-
เฝ้าระวังอาการคล้ายหวัด หากพบให้สวมหน้ากากทันที หรือพบเชื้อให้ส่งแพทย์ทันที
-
ดำเนินการตามคู่มือแผนเผชิญเหตุ สำหรับสถานศึกษา (COMD-19)
-
หากพบการระบาดระดับรุนแรง ให้พิจารณาปิดเรียน พร้อมจัดการเรียนทางเลือก ได้แก่
-
Online (เรียนผ่านอินเทอร์เน็ต)
-
On-Hand (เรียนผ่านใบงาน)
-
On-Air (เรียนผ่านโทรทัศน์)
-
On-Demand (เรียนย้อนหลัง)
-
-
ติดตามข่าวสารผ่านระบบ Digital Disease Surveillance (DDS) และสายด่วน 1422 ของกรมควบคุมโรค
ไม่ต้องปิดทั้งโรงเรียน หากควบคุมได้
ข่าวดีสำหรับนักเรียนและผู้ปกครองคือ แนวทางของ สพฐ. ไม่เน้นการปิดโรงเรียนทั้งระบบ หากยังสามารถแยกกลุ่มเสี่ยง ควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นการบาลานซ์ระหว่างการควบคุมโรคกับการคงไว้ซึ่งคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน
ชุมชนต้องมีส่วนร่วม ลดความเสี่ยงรอบสถานศึกษา
อีกหนึ่งประเด็นที่ สพฐ.เน้นเป็นพิเศษ คือ การมีส่วนร่วมของชุมชน ทั้งคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนโดยรอบ
ช่วยกันเฝ้าระวัง ติดตาม และประสานงาน หากพบกรณีน่าสงสัยในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงเข้าเรียน-เลิกเรียน ซึ่งเป็นช่วงแออัดสูงสุด
เรียนรู้ยุคใหม่ ผสมผสานความยืดหยุ่น
แม้การเรียนในห้องเรียนจะเป็นรูปแบบหลัก แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง โรงเรียนจำเป็นต้องพร้อมใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยทันที เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ Google Classroom, Zoom, YouTube หรือแม้แต่แอปแชทที่ปรับใช้สื่อการเรียน
การเตรียมความพร้อมคือหัวใจสำคัญ
สพฐ.ไม่เพียงออกมาตรการเชิงรับ แต่ยังเน้นเชิงรุก ฝึกซ้อมสถานการณ์จำลอง ให้โรงเรียนเข้าใจขั้นตอนทุกจุด เช่น กรณีนักเรียนติดเชื้อ ต้องแจ้งใคร? กักตัวอย่างไร? ทำความสะอาดเมื่อใด? ต้องเรียนแบบไหนต่อ?
การเตรียมการล่วงหน้าอย่างรัดกุมเช่นนี้ จะช่วยลดความตื่นตระหนก และรักษาความต่อเนื่องในการศึกษาได้ดีที่สุด
ผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญมากขึ้น
ในยุคโควิด-19 ครอบครัวกลายเป็นห้องเรียนที่สอง ผู้ปกครองต้องช่วยสนับสนุนบุตรหลาน ทั้งด้านวินัย ความสะอาด การเรียนออนไลน์ และอารมณ์ความเครียดของเด็ก
สรุป: มาตรการเข้มของ กพฐ. คือความหวังของการศึกษาไทย
การที่ สพฐ.ออกหนังสือและแนวทางที่ชัดเจนในช่วงสำคัญของการเปิดภาคเรียนปี 2568 ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความใส่ใจด้านการศึกษา และคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคนในประเทศ
เพราะ “การเรียนไม่ควรหยุด แม้ในภาวะวิกฤต”
การวางระบบที่ดีตั้งแต่ต้น จะทำให้ทุกฝ่ายเดินหน้าได้พร้อมกัน และมั่นใจมากขึ้น