หลักเกณฑ์วิธี คัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ ๔ ปี ๒๕๖๔ (ประเทศไทย)

หลักเกณฑ์วิธี คัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ ๔ ปี ๒๕๖๔ (ประเทศไทย) โดย มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี

 

ท่านสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบได้ที่ด้านล่างของบทความค่ะ

ข้อ ๑ ในประกาศนี้
“คณะกรรมการวิชาการ” หมายถึง คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี มีบทบาทหน้าที่ให้ความเห็นชอบรายชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ที่เสนอโดยคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด และองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน
“คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง” หมายถึง คณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในส่วนกลาง ซึ่งแต่งตั้งโดยประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี
“คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด” หมายถึง คณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในระดับจังหวัด ซึ่งแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
“การศึกษาขั้นพื้นฐาน” หมายถึง การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา หรือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

ข้อ ๒ ครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะ ดังนี้
๒.๑ คุณสมบัติทั่วไป
(๑) มีสัญชาติไทย และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
(๒) ปฏิบัติหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
๑) เป็น หรือเคยเป็นครูผู้สอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสถานศึกษาของรัฐ เอกชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๒) เป็น หรือเคยเป็นครูนอกสถานศึกษาที่สอนผู้เรียนในวัยการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(๓) มีประสบการณ์ปฏิบัติงานสอนอย่างต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑๕ ปี นับถึงวันที่ออกประกาศนี้
(๔) ปฏิบัติงานสอนอยู่จนถึงวันประกาศผลการพิจารณาตัดสินตามข้อ ๘.๓ ในกรณีที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีชั่วโมงสอนในรายวิชาอย่างต่อเนื่อง
(๕) ไม่เป็นครูสอนพิเศษเป็นอาชีพหลัก
๒.๒ คุณสมบัติเฉพาะ

คุณสมบัติเฉพาะและแนวทางการพิจารณา มีดังนี้
(๑) เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์

คุณสมบัติเฉพาะ แนวทางการพิจารณา
๑. เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์
สร้างแรงบันดาลใจและจัดการเรียนรู้ให้ลูกศิษย์มีความเจริญก้าวหน้าและความสำเร็จในชีวิต มีความอุตสาหะในการทำภารกิจความเป็นครูมาโดยตลอดด้วยจิตวิญญาณความเป็นครู และเป็นแบบอย่างทางคุณธรรมจริยธรรม มีลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายแวดวงอาชีพกล่าวยกย่องถึงคุณงามความดี ๒. เป็นผู้มีคุณูปการต่อการศึกษา
ปฏิบัติงานสอนหรือการจัดการเรียนรู้ ค้นคว้า พัฒนาการสอนหรือการเรียนรู้ด้วยความทุ่มเทเสียสละ มีความแตกฉานทั้งในเนื้อหาและวิธีการจัดการเรียนรู้ในส่วนที่รับผิดชอบ เป็นแบบอย่างของความสำเร็จได้อย่างกว้างขวาง
๑. เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์
พิจารณาจากข้อมูลเชิงประจักษ์ในประเด็นต่อไปนี้
(๑) ลักษณะการสอนและการจัดการเรียนรู้ของครู
สามารถนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตของลูกศิษย์ให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยปฏิบัติต่อลูกศิษย์ทุกคนอย่างสม่าเสมอตลอดชีวิตความเป็นครู
(๒) ผลการสอนและการจัดการเรียนรู้ทาให้ลูกศิษย์
ประสบความสาเร็จ ทั้งในด้านการเรียนการอาชีพ และการดาเนินชีวิต
(๓) มีจิตวิญญาณความเป็นครู รักและศรัทธาในวิชาชีพครู มีความรัก เมตตา เอาใจใส่ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กาลังใจแก่ลูกศิษย์โดยเสมอหน้า อบรม ฝึกฝน เสริมความรู้ ทักษะ และนิสัยที่ดีงามแก่ลูกศิษย์อย่างเต็มความสามารถ เน้นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ทุกด้าน
(๔) มีพฤติกรรมที่ดีงาม ทั้งกาย วาจา ใจ ประพฤติ
ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์และเพื่อนครู
(๕) ได้รับการยกย่องจากลูกศิษย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง
เช่น ผู้บังคับบัญชาในอดีตและปัจจุบัน เพื่อนครู ผู้ปกครอง และผู้นาชุมชน เป็นต้น๒. เป็นผู้มีคุณูปการต่อการศึกษา
พิจารณาจากข้อมูลเชิงประจักษ์ในประเด็นต่อไปนี้
(๑) ปฏิบัติงานสอนหรือจัดการเรียนรู้ด้วยความทุ่มเท เสียสละ ไม่ย่อท้อต่อข้อจำกัดและความยากลำบาก
(๒) ค้นคว้า พัฒนาการสอนหรือจัดการเรียนรู้ ในส่วนที่รับผิดชอบ และนาไปปฏิบัติได้จริง
(๓) มีความแตกฉาน ทั้งในเนื้อหา ความรู้ มีองค์ความรู้ นวัตกรรม หรือผลงานที่มีคุณภาพ สามารถนำไปเผยแพร่ในระดับประเทศหรือระดับนานาชาติ
เป็นแบบอย่าง ได้รับการยอมรับ และนาไปขยายผลอย่างกว้างขวาง มีผลที่เกิดจาก การทำงานที่สามารถเป็นแบบอย่างแก่เพื่อนครู และนำไปปฏิบัติได้จริง

 

 

 

 

การสรรหา

ข้อ ๓ ให้องค์กรและบุคคลดังต่อไปนี้ เป็นผู้สรรหาและเสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี
๓.๑ องค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ตามที่กาหนดไว้ท้ายประกาศนี้ เป็นผู้สรรหาครู ซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ ๒ และเป็นผู้เคยได้รับรางวัลจากองค์กรนั้น ให้เสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง
๓.๒ สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้สรรหาและเสนอชื่อครูในสังกัด หรือครูที่ปฏิบัติงานร่วมกับสถานศึกษาของตนอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีคุณสมบัติ ตามข้อ ๒
การเสนอชื่อ ให้สถานศึกษาแต่ละแห่งเสนอได้ ๑ คน โดยเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ณ จังหวัดที่ครูผู้รับการเสนอชื่อปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน
๓.๓ สมาคม มูลนิธิ และองค์กรซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลและมีภารกิจส่งเสริมการเรียนรู้เป็นผู้สรรหาและเสนอชื่อครูในสังกัด หรือครูที่ปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรของตนซึ่งมีคุณสมบัติ ตามข้อ ๒
การเสนอชื่อ ให้เสนอได้องค์กรละ ๑ คน โดยเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ณ จังหวัดที่ครูผู้รับการเสนอชื่อปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน
สิทธิการเสนอชื่อครูเข้ารับการคัดเลือกในข้อนี้ ไม่รวมถึง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม และมูลนิธิ ที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนครูหรือกิจการของสถานศึกษาใดเป็นการเฉพาะ
๓.๔ ลูกศิษย์ที่เป็นศิษย์เก่า อายุไม่น้อยกว่า ๒๕ ปี เสนอชื่อครูซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ ๒ และเป็นผู้ที่เคยสอนตนมาก่อน
การเสนอชื่อ ลูกศิษย์ ๑ คนมีสิทธิเสนอชื่อครูได้เพียง ๑ คน โดยเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ณ จังหวัดที่ครูผู้รับการเสนอชื่อปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน
๓.๕ คณาจารย์ในระดับอุดมศึกษาซึ่งเคยเป็นผู้สอน เสนอชื่อครูซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ ๒ และเป็นผู้ที่ตนเคยสอนมาก่อน
การเสนอชื่อ ให้อาจารย์ไม่น้อยกว่า ๓ คน มีสิทธิเสนอชื่อลูกศิษย์ที่เคยสอนซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ ๒ ได้ ๑ คน โดยเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ณ จังหวัดที่ครูผู้รับการเสนอชื่อปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน
การสรรหาตามข้อ ๓.๑, ข้อ ๓.๒, ข้อ ๓.๓, ข้อ ๓.๔ และ ข้อ ๓.๕ สาหรับในกรุงเทพมหานคร ให้ถือปฏิบัติดังนี้
๑) ครูในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือครูที่เคยสังกัดกรุงเทพมหานคร ให้เสนอชื่อไปยังคณะกรรมการคัดเลือกในส่วนของกรุงเทพมหานครที่แต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
๒) ครูในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ครูนอกสถานศึกษา และครูอื่นๆ ให้เสนอชื่อไปยังคณะกรรมการคัดเลือกในส่วนของกรุงเทพมหานครที่แต่งตั้งโดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ข้อ ๔ ครูผู้ได้รับรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์ มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อได้อีก ๑ ครั้ง หลังจากได้รับรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์ มาแล้วเป็นไม่น้อยกว่า ๕ ปี
ข้อ ๕ กรณีครูรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์ ที่ได้รับการเสนอชื่อ ให้คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดดำเนินการพิจารณาคุณสมบัติตามข้อ ๒
ข้อ ๖ การเสนอชื่อครูเข้ารับการคัดเลือกให้ใช้แบบเสนอชื่อท้ายประกาศนี้
ข้อ ๗ การเสนอชื่อเกินจานวนที่กำหนด ให้ถือว่าการเสนอชื่อทั้งหมดเป็นโมฆะ

Advertisements
Advertisements

การคัดเลือก
ข้อ ๘ การคัดเลือกมี ๓ ขั้นตอน ดังนี้
๘.๑ ขั้นตอนที่ ๑ : การคัดเลือกระดับจังหวัด และการคัดเลือกโดยองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนตามข้อ ๓.๑ แบ่งเป็น ๒ กลุ่ม ได้แก่

๘.๑.๑ การคัดเลือกระดับจังหวัด

(๑) คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด พิจารณาและคัดเลือกครูที่ได้รับการเสนอชื่อตามข้อ ๓.๒ ข้อ ๓.๓ และ ข้อ ๓.๔ และ ๓.๕ โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ปรากฏในแบบเสนอชื่อ และเอกสารหลักฐานที่จัดส่งมาพร้อมกับแบบเสนอชื่อ รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ที่คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดรวบรวมได้ ด้วยวิธีต่างๆ
การคัดเลือก ให้คัดเลือกไว้ไม่เกินจำนวนที่กำหนดไว้ท้ายประกาศนี้
เมื่อคัดเลือกเสร็จแล้ว ให้คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ประกาศรายชื่อครูผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทราบเป็นการทั่วไป
(๒) เมื่อประกาศรายชื่อครูผู้ได้รับการคัดเลือกตามขั้นตอนที่ ๑ แล้ว ให้คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดจัดให้มีการรับฟังข้อทักท้วงผลการคัดเลือก
(๓) ผู้ใดเห็นว่าครูผู้ได้รับการคัดเลือกรายใดขาดคุณสมบัติ ตามข้อ ๒ สามารถทักท้วงเป็นหนังสือไปยังคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ภายใน ๑๐ วันทาการนับแต่วันประกาศรายชื่อ

หนังสือทักท้วงต้องระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ของผู้ทักท้วง และลงลายมือชื่อของ ผู้ทักท้วง พร้อมกับแสดงข้อเท็จจริงให้เห็นชัดว่าประสงค์จะทักท้วงครูผู้ได้รับการคัดเลือกขั้นตอนที่ ๑ รายใด ด้วยเหตุผลใด หากมีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับข้อทักท้วงให้ส่งไปประกอบการพิจารณาด้วย
หนังสือร้องเรียนที่มีลักษณะเป็นบัตรสนเท่ห์ หนังสือทักท้วงที่ไม่ได้ลงลายมือชื่อ หนังสือทักท้วงที่แอบอ้างใช้ชื่อผู้อื่น หรือหนังสือทักท้วงที่ไม่ได้แสดงข้อเท็จจริงให้เห็นชัดเจนว่าประสงค์จะทักท้วง ครูผู้ได้รับการคัดเลือกรายใด ด้วยเหตุผลใด คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดไม่ควรรับไว้พิจารณา
คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยข้อทักท้วง และ การวินิจฉัยของคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดถือเป็นที่สุด
(๔) เมื่อดำเนินการตาม (๑) (๒) และ (๓) แล้ว ให้ส่งรายชื่อครูผู้ได้รับการคัดเลือก ตามขั้นตอนที่ ๑ พร้อมด้วยประวัติและผลงาน เอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณา และบันทึกสรุปความโดดเด่นของครูผู้ได้รับการคัดเลือกแต่ละบุคคลตามแบบที่กาหนด ไปให้คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง
รายชื่อที่จัดส่งให้คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง ให้เรียงลาดับตามผลการคัดเลือก
(๕) กรณีครูรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์ ที่ได้รับการเสนอชื่อ และคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดดาเนินการพิจารณาคุณสมบัติตามข้อ ๒ มาแล้ว ให้ประกาศรายชื่อโดยแยกจากประกาศ ข้อ (๑) แล้วให้ส่งบัญชีรายชื่อพร้อมด้วยประวัติและผลงาน เอกสารประกอบการพิจารณา และบันทึกความโดดเด่นของครู โดยเฉพาะในส่วนที่เพิ่มขึ้นจากผลงานรางวัลเดิม ตามแบบที่กาหนดต่อคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง
๘.๑.๒ การคัดเลือกโดยองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนตามข้อ ๓.๑
(๑) ให้แต่ละองค์กรพิจารณาและคัดเลือกครูที่ได้รับรางวัลตามรายชื่อองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ที่กาหนดไว้ท้ายประกาศนี้
การคัดเลือก ให้คัดเลือกองค์กรละ ๑ คน
(๒) เมื่อคัดเลือกเสร็จแล้ว ให้แต่ละองค์กรประกาศรายชื่อครูผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทราบเป็นการทั่วไป แล้วจัดให้มีการรับฟังข้อทักท้วงผลการคัดเลือก
ผู้ใดเห็นว่าครูผู้ได้รับการคัดเลือกรายใดขาดคุณสมบัติตามข้อ ๒ สามารถทักท้วงเป็นหนังสือไปยังคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ภายใน ๑๐ วันทำการ นับแต่วันประกาศรายชื่อ
วิธีการทักท้วงและการพิจารณาวินิจฉัยข้อทักท้วงให้นาข้อ ๘.๑.๑ (๓) มาใช้โดยอนุโลม
(๓) เมื่อดำเนินการตาม (๑) และ (๒) แล้ว ให้ส่งรายชื่อครูผู้ได้รับการคัดเลือกพร้อมด้วยประวัติ และผลงาน เอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณา และบันทึกสรุปความโดดเด่นของครูผู้ได้รับการคัดเลือกแต่ละบุคคลตามแบบที่กาหนดไว้ท้ายประกาศนี้ไปให้คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง

๘.๒ ขั้นตอนที่ ๒ : การคัดเลือกในส่วนกลาง
๘.๒.๑ คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง พิจารณารายชื่อที่คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด และองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ตามข้อ ๓.๑ เสนอมา แล้วคัดเลือกให้ได้ จานวน ๒๐ คน โดยพิจารณาจากเอกสาร หลักฐานที่ได้รับจากคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด และองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ตามข้อ ๓.๑

และอาจใช้วิธีการอื่นที่เหมาะสมด้วยก็ได้ เช่น การดูสภาพจริงในพื้นที่ การสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตการสอน หรือร่วมทากิจกรรม เป็นต้น
๘.๒.๒ เมื่อดำเนินการตาม ข้อ ๘.๒.๑ แล้ว ให้ส่งรายชื่อครูที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือก จำนวน ๒๐ คน รวมทั้งรายชื่อที่คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด และองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ตามข้อ ๓.๑ ที่เสนอมาทั้งหมด ไปให้คณะกรรมการวิชาการ พิจารณาให้ความเห็นชอบ
การเสนอรายชื่อครูที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือก จานวน ๒๐ คน ให้เสนอพร้อมด้วยประวัติและผลงาน เอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณา และบันทึกสรุปความโดดเด่นของครูผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกแต่ละบุคคล
๘.๒.๓ เมื่อดำเนินการตาม ข้อ ๘.๒.๒ แล้ว ให้คณะกรรมการวิชาการเสนอรายชื่อครูที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือก ลาดับที่ ๑- ๒๐ พร้อมด้วยประวัติและผลงาน เอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาและบันทึกสรุปความโดดเด่นของครูผู้ได้รับการคัดเลือกแต่ละบุคคล ไปให้คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี พิจารณา
การเสนอรายชื่อ ให้คณะกรรมการวิชาการ เสนอรายชื่อครูที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด โดยเรียงลำดับตามผลการคัดเลือก
๘.๓ ขั้นตอนที่ ๓ : การพิจารณาตัดสิน
๘.๓.๑ คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี พิจารณาตัดสินครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จำนวน ๑ คน รางวัลคุณากร จำนวน ๒ คน รางวัลครูยิ่งคุณ จำนวน ๑๗ คน และรางวัลครูขวัญศิษย์ จากรายชื่อที่เสนอโดยคณะกรรมการวิชาการ และประกาศผลการตัดสินให้ทราบเป็นการทั่วไป
๘.๓.๒ การพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ถือเป็นที่สุด
รางวัล
ข้อ ๙ ครูผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง และคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จะได้รับรางวัล ดังนี้
๙.๑ ครูผู้มีคะแนนสูงสุดจากการตัดสินของคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จะได้รับ “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี”  รางวัลที่ได้รับประกอบด้วย
๑) เหรียญทองรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี
๒) เข็มเชิดชูเกียรติทองคาพระราชทาน
๓) โล่ประกาศเกียรติคุณ
๔) เงินรางวัล จำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ
๙.๒ ครูผู้มีคะแนนลำดับที่ ๒ และลำดับที่ ๓ จากการตัดสินของคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จะได้รับ“รางวัลคุณากร” รางวัลที่ได้รับประกอบด้วย
๑) เหรียญเงินมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี
๒) เข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน
๓) เกียรติบัตร

๙.๓ ครูผู้มีคะแนนลำดับที่ ๔ ถึงลาดับที่ ๒๐ จากการตัดสินของคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีจะได้รับ “รางวัลครูยิ่งคุณ” รางวัลประกอบด้วย
๑) เหรียญทองแดงมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี
๒) เข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน
๓) เกียรติบัตร

๙.๔ ครูผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง และการตัดสินจากคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จะได้รับ “รางวัลครูขวัญศิษย์”รางวัลประกอบด้วย
๑) เข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน
๒) เกียรติบัตร

ข้อ ๑๐ กำหนดเวลาในการสรรหาและคัดเลือกให้เป็นไปตามปฏิทินการคัดเลือกตามท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๑ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง และคณะกรรมการวิชาการ อาจกำหนดแนวทางการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยไม่ขัดหรือแย้งกับหลักเกณฑ์และวิธีการในประกาศนี้
ข้อ ๑๒ คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง และคณะกรรมการวิชาการ อาจตั้งคณะอนุกรรมการและหรือคณะทำงาน เพื่อปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้
ข้อ ๑๓ ผู้ที่ได้รับรางวัลตามประกาศนี้ หากในภายหลังปรากฎในกรณีดังต่อไปนี้ คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี มีสิทธิถอดถอนรางวัลนั้นได้
(๑) ผู้ได้รับรางวัล ได้รับการเสนอชื่อไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการในประกาศนี้
(๒) ผู้ได้รับรางวัลขาดคุณสมบัติตามประกาศนี้อยู่ก่อนวันที่ได้รับรางวัล
(๓) ผู้ได้รับรางวัลมีพฤติกรรมเสื่อมเสียหลังจากได้รับรางวัลแล้ว
ข้อ ๑๔ ในกรณีมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดคำวินิจฉัยของคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีถือเป็นที่สุด
ข้อ ๑๕ การดำเนินการอื่นใดนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี

 

ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๓
(นายกฤษณพงศ์ กีรติกร)
ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี

เรียบเรียงโดย ครูประถม ข่าวการศึกษา

 

Comments are closed.