กรมบัญชีกลางยกเลิก ว845 ยกเว้นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุ ที่ส่งเสริมหรือสนับสนุน

กรมบัญชีกลางยกเลิก ว845 ยกเว้นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุ ที่ส่งเสริมหรือสนับสนุน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ยังขาดความคล่องตัวและเกิดปัญหาในทางปฏิบัติ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างฯ จึงได้ยกเลิกแนวทางปฏิบัติดังกล่าว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความค่ะ

กรมบัญชีกลางยกเลิก ว845 ยกเว้นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุ ที่ส่งเสริมหรือสนับสนุน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ยังขาดความคล่องตัวและเกิดปัญหาในทางปฏิบัติ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างฯ จึงได้ยกเลิกแนวทางปฏิบัติดังกล่าว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความค่ะ

Advertisements

กรมบัญชีกลางยกเลิก ว845 และยกเว้นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน ตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว845 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ยังขาดความคล่องตัวและเกิดปัญหาในทางปฏิบัติ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ โดยได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ จึงได้ยกเลิกแนวทางปฏิบัติดังกล่าว รวมทั้งยกเว้นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

เงื่อนไขเกี่ยวกับผู้ประกอบการ SMEs

ยกเลิกการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการ SMEs ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของงบประมาณที่ตรงกับการขึ้นทะเบียนสินค้าหรืองานบริการที่ สสว. กำหนด และยกเลิกการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดซื้อจัดจ้างกับ SMEs ในพื้นที่ที่จังหวัดของหน่วยงานของรัฐตั้งอยู่ก่อนโดยวิธีคัดเลือก หากพัสดุที่หน่วยงานของรัฐต้องการจัดซื้อจัดจ้างนั้นมี SMEs ขึ้นทะเบียนไว้ครบตั้งแต่ 6 รายขึ้นไป

กรณีให้แต้มต่อกับผู้ประกอบการ SMEs ในการเสนอราคาสูงกว่าผู้ประกอบการทั่วไปได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของราคาต่ำสุดของผู้ประกอบการที่ไม่เป็น SMEs ยังคงเดิม

เงื่อนไขเกี่ยวกับสินค้า Made In Thailand (MIT) สำหรับกรณีการจัดซื้อ

ยกเลิกกรณีพัสดุที่จะจัดซื้อมีผู้ประกอบการที่ได้รับเครื่องหมาย MIT จากสภาอุตสาหกรรม ตั้งแต่ 6 รายขึ้นไป ให้กำหนด Spec ว่าเป็นพัสดุที่ได้รับ MIT และต้องจัดซื้อจากผู้ประกอบการที่มีเครื่องหมาย MIT เท่านั้น และเพิ่มเติมเงื่อนไขใหม่ดังนี้

(1) ให้แต้มต่อกับผู้เสนอราคาได้เสนอพัสดุที่เป็นพัสดุที่ผลิตภายในประเทศที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย MIT จากสภาอุตสาหกรรมสูงกว่าผู้เสนอราคารายอื่นไม่เกินร้อยละ 5

(2) กรณีใช้การพิจารณาแบบราคารวม ให้แต้มต่อกับผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้เสนอสินค้าหลายรายการรวมกันเป็นสินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย MIT จากสภาอุตสาหกรรม โดยมีมูลค่าตั้งแต่ร้อยละ 60 ขึ้นไป ในการเสนอราคาสูงกว่าผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นไม่เกินร้อยละ 5กรณีผู้เสนอราคาเป็นบุคคลไทยหรือนิติบุคคลไทยตามกฎหมาย

ให้แต้มต่อผู้เสนอราคาที่เป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เสนอราคาสูงกว่าราคาต่ำสุดของผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่มิได้ถือสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 3

กรณีการจัดซื้อจัดจ้างวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท

กำหนดให้กรณีวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างครั้งหนึ่งที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ประกอบการ SMEs เป็นลำดับแรกก่อน

“การยกเลิกแนวทางปฏิบัติตาม ว845 และการยกเว้นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงดังกล่าว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการสมยอมกันในการเสนอราคา และลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งลดความผิดพลาดในการใช้ดุลพินิจในการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว78 ลงวันที่ 31 มกราคม 2565 โดยหนังสือฉบับนี้จะมีผลกับการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ที่จะประกาศเชิญชวนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือก กรณีหน่วยงานของรัฐได้ส่งหนังสือเชิญชวนไปยังผู้ประกอบการ SMEs จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 ให้ยกเลิกการเชิญชวนนั้นและดำเนินการใหม่ภายใต้เงื่อนไขตามหนังสือฉบับนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 0-2270-6400 กด 3 ในวัน เวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว

 

ที่มา  มติชนออนไลน์

Advertisements

Comments are closed.